เครื่องมืออะไรบ้าง ที่ทำให้เงินเติบโต

มาทำความรู้จักเครื่องมือที่ทำให้เงินเติบโตกัน

เงินเติบโตได้ มาจากการที่เราได้ผลตอบแทนเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน ลงทุน ยิ่งดอกเบี้ยทบต้นไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้เงินของเราก้อนใหญ่ขึ้น เรามาเรียนรู้กันว่ามีเครื่องมือไหนบ้างที่ทำให้เงินของเราได้ผลตอบแทนเรื่อยๆ

1.เงินฝากออมทรัพย์
เงินฝากออมทรัพย์มีความสำคัญกับเงินสภาพคล่องของเราอย่างมาก เพราะทำให้เราสามารถใช้จ่ายได้ตลอดเวลา แต่ด้วยดอกเบี้ยที่น้อย ทำให้เงินของเราเติบโตได้ช้า

2.เงินฝากประจำ
เงินฝากประจำ เหมาะสำหรับเงินส่วนที่เราต้องการเก็บออมด้วยความเสี่ยงต่ำ ไม่มีโอกาสขาดทุน ให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์ค่ะ

3.ประกันสะสมทรัพย์
ประกันสะสมทรัพย์ เหมาะสำหรับเงินออมเพื่ออนาคตประมาณ 10 ปีขึ้น ให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์ ได้สิทธิลดหย่อนภาษี ผลตอบแทนที่ได้ ไม่ต้องเสียภาษีค่ะ

4.ตราสารหนี้ (กองทุนรวมตราสารหนี้ / หุ้นกู้ / พันธบัตรรัฐบาล)
ตราสารหนี้ เป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ โดยจะมีในรูปแบบของกองทุนรวม หรือซื้อหุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาลเองก็ได้ค่ะ โดยผลตอบแทนจะมากกว่าเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ ประกันสะสมทรัพย์ แต่มีความเสี่ยงที่มากกว่าตามมาด้วยค่ะ

สำหรับหุ้นกู้ ยิ่งเครดิตความน่าเชื่อถือน้อยเท่าไหร่ ยิ่งให้ผลตอบแทนที่มาก แต่ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระก็มากขึ้นตามไปด้วย สำหรับหุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนถูกหักภาษี 15% แต่สำหรับกองทุนรวมตราสารหนี้ ผลตอบแทนถูกหักภาษี 10% ค่ะ

5.ตราสารทุน (กองทุนรวมตราสารทุน / หุ้น)
การลงทุนในหุ้นมีโอกาสให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก ประกันสะสมทรัพย์และหุ้นกู้ แต่สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือความเสี่ยงในการขาดทุนที่มากกว่าด้วยเช่นกัน

สินทรัพย์ไหนยิ่งผันผวนมาก ราคายิ่งกำไรและขาดทุนมากเท่านั้น ก่อนการนำเงินมาลงทุนจึงควรมีเงินสภาพคล่องอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อทำให้เราไม่เดือดร้อนจากการลงทุนที่ผิดพลาด และควรศึกษาความรู้ และกระจายความเสี่ยงในหลายสินทรัพย์ที่แตกต่างกลุ่มธุรกิจ ประเทศ เพื่อลดโอกาสขาดทุนค่ะ

6.สัญญาล่วงหน้า (Future / Options)
การลงทุนปกติ จะเป็นการซื้อหุ้น แล้วรอให้ราคาเพิ่มขึ้นเพื่อได้รับผลตอบแทน แต่สัญญาล่วงหน้า คือการทำสัญญาตกลงกัน และรับมอบในวันที่สัญญาหมดอายุหรือแลกเปลี่ยนสำเร็จ

ความเสี่ยงของสัญญาล่วงหน้า คือ Leverage (ผลตอบแทนทวีคูณ) และการขาดทุนไม่จำกัด ซึ่งถ้าการลงทุนถูกต้อง เราจะได้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในหุ้นหลายเท่า แต่ถ้าลงทุนผิดทาง อาจจะทำให้เราขาดทุนหลายเท่าเช่นกัน

เครื่องมือนี้จึงเหมาะกับผู้มีความรู้อย่างมากในการลงทุนค่ะ