Fear & Greed อารมณ์ของตลาดมีผลต่อกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร

บทความนี้จะมาแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุน เกี่ยวกับอารมณ์ของตลาด ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมของนักลงทุน ไม่ว่าจะทำการซื้อหรือขาย เรามาดูกันว่าทำไมทิศทางของกราฟจึงดึงดูดให้เราขาดทุน และทำไมเราถึงไม่กล้าซื้อในวันที่ใช่ที่สุด

1.ทำไมเราถึงมีความอยากที่จะซื้อในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้น และมองข้ามความเสี่ยงที่จะติดดอย
– ในช่วงนั้นมีแต่ข่าวดี ทำให้เราอยากที่จะซื้อ
– มีโอกาสทำกำไรได้ในระยะสั้น ซื้อง่ายขายคล่อง ทำให้รู้สึกมีความมั่นใจและรู้สีกว่าตัวเองเก่ง
– คิดว่าเมื่อราคาลงนิดนึงจะรีบขาย แล้วซื้อใหม่ถ้าราคาไปต่อ

2.ทำไมในวันที่ตลาดขาลง เราถึงไม่อยากซื้อของถูกเพื่อทำกำไรในอนาคต
– ซื้อมาแล้วกลัวขาดทุนลงไปอีก
– ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงจะมีโอกาสทำกำไร
– ไม่เชื่อมั่นในสินทรัพย์ที่เราลงทุน
– มีแต่ข่าวลบ

แต่ถ้าเรามามองดูในมุมมองของความเสี่ยงกันบ้าง เราจะได้เห็นภาพของตลาดขาขึ้นและขาลงที่ต่างออกไป
1.ช่วงตลาดขาขึ้น: ยิ่งตลาดขึ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งมีความเปราะบางมากเท่านั้น คนที่ได้กำไรจำนวนมากพร้อมที่จะทำกำไรในช่วงนี้ เพื่อได้กำไรสูงที่สุด และเมื่อเกิดขาลง หลายๆคนจะเริ่มกังวล และมีความกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนขายออกมา
2.ช่วงตลาดขาลง: ตลาดขาลง จะมีโอกาสได้ของดีราคาถูก เมื่อตลาดฟื้นตัวทำให้เราได้ Capital Gain มากกว่าซื้อช่วงที่เป็นขาขึ้น

เพราะฉะนั้นแล้ว หากวันที่เรามั่นใจในการลงทุน อาจจะต้องกลับมาคิดว่าเราจะแก้เกมอย่างไร หากลงทุนผิดพลาด และวันใดที่เรารู้สึกกลัวกับอนาคตว่าเราได้ซื้อสินทรัพย์ที่เป็นขาลง เราอาจจะได้ครอบครองของดีที่ไม่มีใครต้องการก็ได้ค่ะ

ลิงค์นี้เป็นเครื่องมือในการดูเรื่อง Fear & Greed ของสินทรัพย์ต่างๆค่ะ
https://edition.cnn.com/markets/fear-and-greed

สุดท้ายนี้ ขอฝากข้อความของคุณปู่ Warren Buffet ที่เข้ากับบทความนี้
Be fearful when others are greedy and be greedy when others are fearful
(ให้กลัวในวันที่คนกล้า และกล้าในวันที่คนอื่นกลัว)