ผู้ลงทุนรายใหญ่กับผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ ได้เปรียบกว่านักลงทุนรายย่อยอย่างไร

ผู้ลงทุนรายใหญ่กับผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ ได้เปรียบกว่านักลงทุนรายย่อยอย่างไร

ช่วยให้เข้าถึงการลงทุนได้หลากหลายขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มากกว่า โดยที่บางสินทรัพย์อาจมีความเสี่ยง ความผันผวนของตลาดต่ำกว่า

เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ ปลดล็อกการลงทุนอะไรได้บ้าง

1.หุ้นกู้ที่ขายให้เฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่: การเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่จะมีโอกาสซื้อหุ้นกู้ได้หลากหลายมากกว่าผู้ลงทุนรายย่อย

2.หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Notes): มีหลายประเภทให้เลือก โดยแต่ละประเภทจะมีข้อดีที่แตกต่างกันตามสถานการณ์ เช่น

2.1 เมื่อราคาตลาดไม่ชัดเจนว่าจะเป็นทิศทางขึ้นหรือลง (Side way): สามารถใช้เครื่องมือ Knock-In Knock-Out (KIKO) ในการเพิ่มผลตอบแทน โดยถ้าราคาสินทรัพย์อ้างอิงยิ่งใกล้ Barrier ยิ่งได้ผลตอบแทนดีขึ้น

2.2 ไม่อยากเสียเงินต้น หรือเสียเงินต้นน้อยแต่มีผลตอบแทนที่สูงขึ้น: สามารถใช้เครื่องมือ Sharkfin Equity Linked Notes โดยเลือกแบบ Principal Protection ได้

2.3 ถ้ากำไรได้ผลตอบแทน แต่ถ้าขาดทุนได้หุ้นไป: สามารถใช้เครื่องมือ Equity Linked Note (ELN)

2.4 ในสถานการณ์ที่มีความผันผวนสูง ต้องการทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลงพร้อมกัน: สามารถใช้เครื่องมือ Twin-Win Notes สามารถทำกำไรทั้งในขาขึ้นและขาลงได้ โดยยังอยู่ในกรอบที่กำหนด

เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ ปลดล็อกการลงทุนอะไรได้บ้าง

สามารถลงทุนในหุ้นกู้ที่ขายให้เฉพาะผู้ลงรายใหญ๋ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ได้เหมือนกับผู้ลงทุนรายใหญ่ แต่มีเพิ่มเติม สามารถลงทุนใน Private Asset ซึ่งได้แก่

1.Private Equity:

ลงทุนหุ้นในบริษัทใหม่ ที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าบริษัทในตลาด สามารถลงทุนได้หลายรูปแบบ ทั้งในช่วงตั้งต้น ช่วงเติบโต หรือร่วมทุนโดยการเข้าซื้อ

2.Private Real Estate:

ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีความผันผวนต่ำ เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ

3.Life Settlement:

ลงทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิต จากผู้ถือกรมธรรม์เดิมที่ต้องการเงินสดในบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ โดยกองทุนจะจ่ายเบี้ยที่เหลือ และรับผลประโยชน์แทนผู้ถือกรมธรรม์เดิม มีความผันผวนต่ำ ไม่เคลื่อนไหวตามตลาดหุ้น

4.Currency:

ลงทุนในอัตราแลกเปลี่ยน ผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ฟอร์เวิร์ด และ สวอป ที่แม้จะมีความผันผวนที่สูง แต่ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะ

5.Multi-Asset:

ลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ REITs ค่าเงิน หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย ตามสไตล์ผู้บริหารกองทุน เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด

6.Equity Strategies:

สร้างความได้เปรียบได้ในการลงทุนผ่านกลยุทธ์ที่หลากหลาย ทลายข้อจำกัดต่างๆ เช่น กลยุทธ์ Long Short Equity สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง หรือลงทุนตรงใน บลจ. ต่างประเทศ เพื่อผลตอบแทนที่มากกว่า