ความรู้การลงทุน

เรามาทำความรู้จักกองทุนรวมตราสารหนี้กับหุ้นกู้กัน ว่าคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร หุ้นกู้ เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทเอกชน ส่วนถ้าเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้มีการจัดอันดับเครดิตต่างๆ ยิ่งจัดอันดับดีมากเท่าไหร่ ยิ่งมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้น้อย แต่ผลตอบแทนก็น้อยกว่าค่ะ โดยเราทำความรู้จักความเสี่ยงของอันดับเครดิตได้จากบทความนี้ค่ะ https://findoccozycorner.com/2024/07/07/หุ้นกู้-ต้องดูอะไรบ้าง/ หุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาล เหมาะกับใคร -เหมาะกับคนที่มีเงินเก็บ ถ้าลงทุนในหุ้นกู้เป็นปี สภาพคล่องทางการเงินไม่เดือดร้อน -เหมาะกับคนที่ต้องการผลตอบแทนที่ไม่ผันผวน […]

ในช่วงนี้เป็นบทเรียนสำคัญในการเรียนรู้การลงทุน ว่าไม่มีอะไรแน่นอน เห็นได้จากการที่หุ้นมีปัญหาแค่ตัวเดียว ส่งผลกระทบมากมายไปยังหุ้นกู้ ที่อดีตเคยมีเรตติ้งระดับ A- แต่ตอนนี้อยู่ในระดับต่ำกว่า Investment grade และยังส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นในกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีสัดส่วนหุ้นกู้นี้เพียง 5% ซึ่งการตกใจและขายเป็นจำนวนมาก ทำให้กองทุนรวมต้องปิดตัวลง เมื่ออนาคตมีความไม่แน่นอน แม้แต่ความเสี่ยงต่ำ หรือแค่เราฝากเงินความเสี่ยงต่ำสุด ก็อาจจะมีปัญหาได้ ซึ่งเห็นตัวอย่างได้จากหลายเหตุการณ์ ในหลายประเทศ การกระจายความเสี่ยง

1.เข้าใจการเงินของตัวเอง ด้วยการวางแผนการเงินอันดับแรกที่สำคัญที่สุดในการลงทุน ไม่ใช่การที่เรารู้จักเครื่องมือหรือเทคนิคการลงทุน แต่คือการรู้จักตัวเองด้วยการวางแผนการเงินการวางแผนการเงินทำให้เรารู้ว่าเราควรแบ่งสัดส่วนเงินเท่าไหร่ในการลงทุน และรับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ เพื่อไม่ให้กระทบกับการเงินสภาพคล่อง และเงินเก็บเพื่อความจำเป็นในอนาคต เช่น ออมเพื่อรักษาสุขภาพ ออมเพื่อเกษียณ ออมเพื่อค่าเล่าเรียนของลูก เงินสำหรับจ่ายหนี้ เป็นต้น2.เข้าใจในสินทรัพย์ที่เราไปลงทุนเมื่อเรารู้ว่ามีเงินสำหรับลงทุนเท่าไหร่ และระดับความเสี่ยงที่เรารับได้ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เราเข้าใจ จะทำโอกาสในการขาดทุนหรือเสียต้นทุนทั้งหมดลดน้อยลงซึ่งหากเราไม่เข้าใจในสินทรัพย์ที่เราไปลงทุน มองแต่ผลตอบแทน เราอาจจะเลือกสินทรัพย์ที่เสี่ยงเกินไป หรือสินทรัพย์ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งอาจจะทำให้สูญเสียต้นทุนทั้งหมดได้3.กระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์และช่วงเวลาในการลงทุนการลงทุนมีความเสี่ยง

การเลือกลงทุนตาม Sector Rotation เป็นแนวทางในการเลือกหุ้น ที่มีไอเดียว่าหุ้นที่เราซื้อไปในวันนี้ จะได้รับประโยชน์ในอนาคตค่ะ เรามาดูกันว่าหุ้น sector ไหน ควรซื้อช่วงเวลาใดบ้าง– Early Bull (ช่วงหุ้นเริ่มขึ้นหลังจากตกมานาน): แนะนำหุ้นขนส่ง และการเงินเมื่อเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงปกติหรือฟื้นตัวได้ คนในประเทศมีแนวโน้มใช้เงินเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้ภาคการเงินที่มีคนออกมาจับจ่ายใช้สอย กู้ยืมมากขึ้น กับภาคการขนส่งที่คนเริ่มออกเดินทาง มีการขนส่งสินค้ามากขึ้น

DCA ( Dollar-Cost Averaging ) คือการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการใช้เงินเท่าๆกัน เรามาดูข้อดีของ DCA ว่าทำไมถึงช่วยให้การลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี1.ลงทุนอย่างสม่ำเสมอการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เรามีความพร้อมที่มากกว่า เพราะไม่ต้องใช้เงินทุนมาก สามารถแบ่งส่วนนึงของเงินเก็บมาลงทุน เมื่อเวลาผ่านไปหลายๆปี จะทำให้เงินของเราเติบโตได้ในระยะยาวค่ะ2.กระจายความเสี่ยงความผันผวนของราคาการกระจายเงินลงทุนที่เท่ากัน ในช่วงเวลาที่ต่างกัน เป็นการกระจายความเสี่ยงทางด้านความผันผวนที่ดี เพราะจะทำให้เราสามารถลงทุนได้ทุกสภาวะของตลาดค่ะซึ่งข้อดีเหล่านี้ นอกจากจะส่งผลทำให้การลงทุนของเราเติบโตในระยะยาวแล้ว ยังช่วยบาลานซ์ชีวิต

บทความนี้จะมาแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุน เกี่ยวกับอารมณ์ของตลาด ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมของนักลงทุน ไม่ว่าจะทำการซื้อหรือขาย เรามาดูกันว่าทำไมทิศทางของกราฟจึงดึงดูดให้เราขาดทุน และทำไมเราถึงไม่กล้าซื้อในวันที่ใช่ที่สุด1.ทำไมเราถึงมีความอยากที่จะซื้อในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้น และมองข้ามความเสี่ยงที่จะติดดอย– ในช่วงนั้นมีแต่ข่าวดี ทำให้เราอยากที่จะซื้อ– มีโอกาสทำกำไรได้ในระยะสั้น ซื้อง่ายขายคล่อง ทำให้รู้สึกมีความมั่นใจและรู้สีกว่าตัวเองเก่ง– คิดว่าเมื่อราคาลงนิดนึงจะรีบขาย แล้วซื้อใหม่ถ้าราคาไปต่อ2.ทำไมในวันที่ตลาดขาลง เราถึงไม่อยากซื้อของถูกเพื่อทำกำไรในอนาคต– ซื้อมาแล้วกลัวขาดทุนลงไปอีก– ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงจะมีโอกาสทำกำไร– ไม่เชื่อมั่นในสินทรัพย์ที่เราลงทุน– มีแต่ข่าวลบแต่ถ้าเรามามองดูในมุมมองของความเสี่ยงกันบ้าง เราจะได้เห็นภาพของตลาดขาขึ้นและขาลงที่ต่างออกไป1.ช่วงตลาดขาขึ้น:

การลงทุนในกองทุนรวม สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่ากองทุนที่เราซื้อ ลงทุนในอะไร มีโอกาสที่จะทำกำไรหรือไม่ ซึ่งข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญ ถูกสรุปรวมอยู่ใน Fund Fact Sheet ค่ะ แต่ข้อมูลใน Fund Fact Sheet มีมากจนไม่รู้ว่าจะอ่านอะไรดี บทความนี้ เราจะมาทำความรู้จัก Fund Fact

หลายคนอาจจะไม่รู้จักว่าคำอธิบายในหนังสือชี้ชวนแปลว่าอะไรบ้าง และอะไรที่เราควรดูเพื่อตัดสินใจ หมอมิ้ม Findoc’s cozy corner มีเคล็ดลับการดูเบื้องต้น มาเล่าให้ฟังค่ะ1. Credit rating• Investment Grade ยิ่งเกรดสูงยิ่งมีความน่าเชื่อถือ มีโอกาสผิดนัดชำระน้อย• Speculative Grade ยิ่งเกรดต่ำ ยิ่งมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น แต่ผลตอบแทนสูงตามไปด้วย2.ลำดับการได้รับชำระหนี้ลำดับ 1